ขึ้นค่าแท็กซี่แก้ปัญหาได้จริงๆหรอ

ขึ้นค่าแท็กซี่เพื่อแก้ปัญหา

เริ่มเห็นประเด็นนี้ผ่านทางสื่อต่างๆ เช่น Facebook ตอนนี้ share กันอย่างต่อเนื่อง

---

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอแนวทางการปฏิรูปแท็กซี่เบื้องต้นเพิ่มเติม โดยจะปรับโครงสร้างราคาแท็กซี่กำหนดค่าบริการเริ่มต้น

จากเดิม 35 บาท เป็น 40 บาท ช่วง 2 กิโลเมตรแรก [ขอบคุณข้อมูล]

---

เรามาถึงจุดนี้กันเลยทีเดียวที่ต้องขึ้นค่าโดยสารเพื่อให้พี่แท็กซี่รับเรา

แล้ว... ตกลงเราเกากันถูกที่คันแล้วใช่หรือไม่

ประเด็นอยู่ที่ค่าโดยสารหรือไม่ เพราะเหตุใด อันนี้ก็ไม่ทราบได้เพราะพี่แท็กซี่เขามีเหตุผลร้อยแปดพันประการ ดังเช่น...

---

อยากจะเสนอทางออกแต่ก็ไม่รู้จะออกถูกทางหรือป่าว

จากการนั่งรถโดยสารสาธารณะมาเกือบทั้งชีวิตทำให้สังเกตได้ว่าบริษัทรถที่มีหน่วยงานกำกับดูแลพนักงานก็จะมีรูปแบบการให้บริการอีกแบบหนึ่ง

ยกตัวอย่างสายรถเมล์ที่ใช้เป็นประจำคือ 516 และ 515 เท่าที่สังเกตพนักงานขับรถหรือกระเป๋ารถเมล์ของรถเมล์ทั้งสองสายนี้มีการให้บริการที่ดี มีการกล่าวต้อนรับ สวัสดีและขอบคุณ สุภาพ

---

แล้วแท็กซี่จะมีหน่วยงานออกมากำกับดูแลได้บ้างหรือไม่ ?

หากผู้ที่ต้องการขับแท็กซี่เพื่อให้บริการประชาชนนั้นต้องผ่านขั้นตอนการอบรมเป็นเวลา xxx ชั่วโมง อบรมมารยาท กฎ กติกาการให้บริการและ “บทลงโทษและรางวัลความดี” ที่ชัดเจนแล้วจึงออกใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะให้ 

คิดว่าเพียงเท่านี้ก็สามารถที่จะลดปริมาณความน่าอนาถใจกับแท็กซี่ได้บ้าง

และคิดว่าน่าจะลดอัตราการปะทะกันระหว่างแท็กซี่กับผู้โดยสารได้อีกด้วยเพราะที่ผ่านมาเคยเห็นการวางมวยเกิดขึ้นเพราะแท็กซี่บางคันมีกิริยาที่ไม่สุภาพ ปฏิเสธแถมยังทำหน้าตาเหมือนผู้โดยสารขอขึ้นติดรถไปลงหน้าบ้าน

---

ฝากไว้ให้ช่วยกันพิจารณา [ฝากใคร ?] เผื่อจะเป็นแนวทางแก้ปัญหาได้บ้าง

ออกกำลังกายที่ไหนดี: สะพานพระราม 8 ฝั่งธน

ช่วงนี้อยากออกกำลังกายมากเพราะรู้สึกว่าขาตุ้ยนุ้ยแล้ว

แถวจรัญฯ - บางพลัดนี่มีที่ออกกำลังกายที่ไหนบ้าง อารมณ์แบบสวนสาธารณะสะอาดๆ 

บรรยากาศคนรักสุขภาพมาออกกำลังกายกัน 

ลองค้นหาจาก Google ก็มีหลายที่เหมือนกัน ที่ใกล้ทีสุดก็คือ "สวนหลวงพระราม ๘" 

หรือที่เรียกกันบ้านๆว่าสวนสาธารณะพระราม 8 หรือใต้สะพานพระราม 8 

 มีบริเวณเนื้อที่ 35 ไร่และเปิดทำการตั้งแต่ 05.00 - 21.00 ทุกวัน 

โดยเปิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2555 

วันนี้เลยลองมา survey พื้นที่ก่อนลงสนามจริง ช่วงเวลาที่มาถึงประมาณหกโมงกว่าๆเกือบหนึ่งทุ่ม

ตามชื่อเรียกเลยค่ะ สวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี 

มาช่วงนี้บรรยากาศเลยเป็นดังภาพค่ะ สวยมาก 

แสงและองค์ประกอบอื่นๆทั้งสะพานและสิ่งแวดล้อมต่างๆสวยสะอาดจริงๆ 

ตอนนี้เราสามารถลบภาพบรรยากาศเก่าๆของใต้สะพานพรราม 8 ไปได้เลยที่เมื่อก่อนจะมีเด็กวัยรุ่นมามั่วสุมกันทำให้ไม่กล้าเดินหรือเข้ามาใช้บริการสวนสาธารณะแห่งนี้

บรรยากาศโดยรอบมีการจัดโซนต่างๆ เช่น เดิน วิ่ง หรือใครอยากจะไปนั่งกินลมริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็ได้ 

ตรงบริเวณทางเดินนี้จะมีพ่อแม่ ป้า ลุง หรือผู้สูงวัยมาเดินออกกำลังพร้อมพาลูกๆหลานๆมาด้วย บรรยากาศน่ารักดีค่ะ มีขี่จักรยานมาออกกำลังกายบ้างหรือจะจอดไว้ในที่ๆสวนจัดไว้ให้ก็ได้ 

มีลานเต้นแอโรบิคด้วย >,<  [แน่นอนเราไม่พลาดเพราะเราชอบมาก] 

ผู้รักสุขภาพวิ่งในสวนหลวงพระราม 8, บรรยากาศตอนที่ถ่ายนี้ใกล้มืดเต็มที่ แสงไม่มีแล้วแต่ก็ยังมีผู้คนวิ่งอยู่เป็นจำนวนมาก วิ่งบ้างพักบ้าง บางกลุ่มก็มาซ้อมวิ่งมาราธอน บางกลุ่มก็มานั่งกินบรรยากาศในศาลาริมน้ำ ที่สำคัญของสวนนี้เลยคือสะอาดและไม่มีขยะ ด้านหน้าทางเข้าสวนมีป้ายห้ามนำแอลกอฮอล์เข้ามา [ดีเยี่ยมมากๆ] ตามจุดต่างๆบริเวณโดยรอบมีถังขยะไว้คอยบริการ ตรงนี้ถือว่าดีมากเพราะเป็นการเพิ่มระเบียบวินัยในการใช้พื้นที่ส่วนรวมขอชื่นชมเลยค่ะ 

เมื่อหันหลังให้แม่น้ำเจ้าพระยาก็จะมองเห็น

พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล

พลาดไม่ได้ที่จะเก็บรูปมา ยืนมองอยู่นานมาก สวยงามจริงๆค่ะ

เมื่อพระบรมราชานุสาวรีย์นั้นต้องกับแสงพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

ตรงนี้คือบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา

หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล

ยังมีผู้คนวิ่งอยู่เรื่อยๆ

ด้านหน้าทางเข้าสวนเป็นโซนของหนุ่มๆที่มาเตะบอลกันค่ะ [เดินดีๆนะ ระวังโดนลูกบอล]

แบ่งเป็นสองสนาม สนามเด็กๆกับสนามวัยรุ่น - วัยผู้ใหญ่ 

ที่เห็นเป็นไฟสว่างๆไกลๆในภาพนั่นคือ 7-eleven ค่ะ หิวเมื่อไหร่ก็แวะไปได้ค่ะ อยู่ไม่ห่างกันมาก

ทางด้านหน้ามีลานจอดรถมอเตอร์ไซค์จำนวนมากไว้คอยให้บริการค่ะ

กั้นเขตไว้เป็นพื้นที่อย่างเป็นระเบียบและจอดกันเป็นระเบียบด้วย 

เห็นทีว่าจะต้องเริ่มจัด program การออกกำลังกายของตัวเองแล้วทั้งวิ่งละเต้นแอโรบิค 

สวนหลวงพระราม 8 อยู่ใกล้เพียงเท่านี้ ไหนจะได้สุขภาพแล้วยังได้บรรยากาศสบายๆฟรีๆอีกด้วย 

ไปออกกำลังกายด้วยกันนะคะ

ฝาน้ำสิงห์: สะสม point แลกรางวัล

ด้วยความที่ปกติเป็นคนที่ชอบดื่มน้ำสิงห์อยู่แล้วเลยซื้อทีละเยอะๆ 

เมื่อก่อนเคยคิดว่าน่าจะมีการส่งฉลากไปชิงโชคอะไรแบบนี้

...แต่... 

ไม่ต้องแล้วเพราะตอนนี้น้ำสิงห์ให้เราได้เก็บ point สะสมผ่านทาง 

Application LINE: SINGHA REWARD

สะดวกมากแถมไม่ต้องเก็บฝาเป็นหลักฐานอีกต่างหาก 

[ยอดเยี่ยมไปเลยเพราะเก็บทีไรฝาหายตลอด] 

ที่เห็นเหลือ 12 point ไม่ใช่อะไรนะคะ เอาไปแลกของและลุ้นโชคแล้วต่างหาก

เรามองว่ามันได้ประโยชน์ด้วยเพราะไหนๆก็ดื่มเป็นประจำอยู่แล้ว 

จะเอามาลุ้นโชคหรือเก็บสะสมแลกของก็ไม่เห็นเสียหายเนอะ 

ยำไก่แซ่บ: บางพลัด ตรงข้ามตลาดพงษ์ทรัพ์

คือตอนแรกลงจากรถมาคิดว่าขายไก่ทอดอย่างเดียว เห็นน้องๆนักศึกษากำลังซื้ออยู่เลยเดินไปเข้าคิว

ยำไก่แซ่บ ยำง่ายๆแต่รสชาติโอเคเลยทีเดียว ที่สำคัญเนื้อไก่น่ากินมาก ปกติเป็นคนชอบรสไก่แบบนี้อยู่แล้วเลยลองซื้อกินดู



ราคาก็ทั่วไปของปัจจุบันนนี้ 30 - 50 บาท
บอกพี่แม่ค้าได้เลยว่าอยากได้รสชาติแบบไหน เท่านี้ก็สามารถเป็นมื้อเย็นได้แล้วหากไม่คิดอะไรมาก กินอะไร ทำอะไรง่ายๆ ชีวิตกรุงเทพไม่ได้มีอะไรซับซ้อนขนาดนั้น

แต่กับบางร้านก็ต้องเลือกให้ดีไม่อย่างนั้นจะเจอร้านที่พูดคนละภาษากับเรา 
แม้จะอยู่ย่านเดียวกันแต่ก็อาจจะทำให้สื่อสารกันยากสักหน่อย

แก้ว 7-eleven ลายน่ารักมากๆ

แน่นอนว่ามันต้องโดนให้ได้งานนี้สำหรับแก้วมัคเซรามิค LINE FRIENDS 

เพราะเล็งเป้ามาได้สักพักตั้งแต่แรกๆแล้ว ซื้อของที่ร่วมรายการครบ 100 บาทขึ้นไป ได้แลกซื้อแก้ว 69 บาท

แต่... 

สินค้าหมดไวมาก ดังนั้นมันต้องมีเทคนิคกันหน่อย

เทคนิคที่ว่านั่นคือสาขา 

สาขาในเขตใหญ่ๆ เช่นตามป้ายรถเมล์นั้นหมดเร็วมาก ก็เลยต้องไปหาโอกาสแลกในซอย

ด้วยความที่บ้านอยู่ค่อนข้างลึกแล้วก็มีเซเว่นกลางซอยประมาณสามเซเว่นเลยเลือกเซเว่นสุดท้ายของซอยก่อนถึงบ้าน 

ไปแลกตอนกลางคืน มีเจ้าแก้วพวกนี้ตั้งเรียงรายอยู่ที่เคาท์เตอร์เลยไปจัดลายนี้มาหนึ่งใบ สีเขียวน่ารักเชียว ได้มาครอบครองสมใจ

ช่วงนี้สินค้าอาจจะขาดตามที่ใหญ่ๆ ใจเย็นๆกันนะคะทุกคน 

รถสีส้มซอยกันตนา ราคา 10 บาท

หลายคนคงสงสัยว่าหากจะเข้าซอยกันตนาที่ข้างในมีตลาดน้ำบางคูลัดแล้วเนี่ยต้องไปยังไง

จะใช้บริการ taxiหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ได้

แต่ซอยนี้จะมีรถเมล์สีส้มให้บริการอยู่ค่ะ เคยชวนขับรถคุยเขาบอกว่ารถจะวิ่งทุกๆ 15 นาที อย่างเช่นวันนี้นั่งรถมาจาก Central Pinklao เริ่มรอเวลา 10.20 น. รถมา 10.35 น. ค่ารถประมาณ 10-15 บาท

จุดรอรถก็บริเวณนี้เลยค่ะ รถจะวิ่งรับผู้โดยสารเป็นระยะๆตามแต่คนจะขึ้นตั้งแต่หน้าปากซอยไปจนสุดทางบริเวณวัดต้นเชือก

วันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปรถมาให้ดู ไว้จะมา update ให้นะคะ

อัพเดทนะคะ ตอนนี้ไม่เห็นรถสีส้มที่เป็นรถเมย์แล้วค่ะ แต่เปลียนมาเป็นรถสองแถวสีแดงแทน คาดว่าน่าจะเป็นผลจากการเดินทางในช่วงโควิดที่ทำให้ไม่ค่อยมีผู้โดยสารค่ะ

เมื่อ Avenger Infinity War กลายเป็นหนังที่น่ารำคาญ

ขอเล่าประสบการณ์ที่น่ารำคาญในการดู Avenger Infinity War เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 ที่ผ่านมาว่า “น่ารำคาญมาก”

@Major Cineplex Central Pinklao

ชาย-หญิงสามคู่เดินมานั่งเรียงกัน คู่ซวยสุดคือคู่เราที่อยู่ตรงกลางเพราะโดนอีกสองคู่ประกบ ทั้งสองคู่มาพร้อมกับเราแต่ดูเหมือนว่าสองคู่นี้จะสลับกันเพราะว่า...

คู่แรกผู้หญิงจะถามคุณแฟนตลอดเรื่อง

“ใครอ่ะ”

“ มาไงอ่ะ”

 “ภาคที่แล้วไปไหนมาอ่ะ”

 “แล้วไงต่ออ่ะ”

 บลาๆๆ...

เราก็เลยต้องกระแอมประมาณว่าเอ่อ... ข้าวโพดติดคอเนอะ “อ่ะแฮ่ม!” แล้วดูดน้ำพร้อมเหลือบตามอง เหมือนฝ่ายชายจะรู้ตัว

...สักพัก...

คู่ทางด้านฝั่งขวามือเรา ฝ่ายชายเล่าว่า

“เนี่ย infinity stone อีกเม็ดอ่ะอยู่ที่.......”

“นั่น! ขวานมา Thor เลย”

“เนี่ยดาว....”

“.........มา!”

ฉากต่อฉากจ้า

โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!  

เล่าไปเล่ามาก็เหมือนซิทคอม

ผู้หญิงคู่ซ้ายมือถาม ผู้ชายฝั่งขวามือตอบ สลับกันไปมาประมาณสี่ห้าคำถาม

ตึ่งโป๊ะ!

นี่อยากจะเอาถุงมืออี THANNOS มาบีบให้ทั้งคู่นิ่งมาก

ที่น่าสงสารคือคู่ของแต่ละคน นั่งเงียบมาก ฝ่ายชายคู่ซ้ายก็ตั้งใจดู บอกแฟนให้เงียบเป็นระยะๆส่วนฝ่ายหญิงคู่ขวาก็นั่งเงียบเลยไม่ได้ถามหรืออะไรทั้งสิ้นเพราะฝ่ายชายเล่าเองอะไรเอง

เพิ่มเติมสำหรับเบาะด้านหลัง ไม่ทราบว่า 4DX หรือย่างไร ถีบเบาะตลอดเวลา

บรรยากาศการดูหนังวันนั้น 2/10

ส่วน Avenger Infinity War ให้ 10/10

คิดไปคิดมาเราน่าจะเปิดโรงเรียนหรือมีครอสอบรมมารยาทในการเข้าโรงหนังก่อนที่จะมีสิทธิ์ใช้บริการ เพื่อความสุขของผู้อื่น อาจจะมีการเก็บผลการอบรมด้วยข้อมูลระบบ digital และมีการเรียกเข้ารับการอบรมทุกปีเหมือนต่อใบขับขี่อะไรประมาณนั้น เพราะดูท่าทางแล้วคงยากลำบากต่อใครหลายๆคนจริงๆในการเกรงใจผู้อื่น